ฺฺฺBreast Cancer

Last updated: 20 ม.ค. 2568  |  6435 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ฺฺฺBreast Cancer

 "มะเร็งเต้านม"...โรคที่เป็นสาเหตุให้ผู้หญิงไทยเสียชีวิตมากเป็นอันดับ 1 

แต่!!!...ถึงแม้ว่า "มะเร็งเต้านม" จะเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของผู้หญิงไทยมากเป็นอันดับ 1 ก็ตาม...แต่หากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มแรกและเข้ารับการรักษาได้ทันเวลา ก็สามารถหายขาดจากโรคได้ 


อยากรู้ใช่ไหมคะ...ว่าอาการแบบไหนเสี่ยง "มะเร็งเต้านม"

เบื้องต้น...หากคลำพบ...มีก้อนในเต้านมหรือใต้แขน บริเวณหัวนมบุ๋ม มีน้ำเหลือง มีเลือด หรือมีแผล เต้านมมีผื่น แดง ร้อน ผื่นคล้ายผิวส้ม มีอาการปวดบริเวณเต้านม ให้รีบไปพบแพทย์ตรวจอย่างละเอียดคะ

"มะเร็งเต้านม" มีกี่ระยะ??
ปัจจุบันมีการแบ่งระยะของมะเร็งเต้านมเป็น 5 ระยะ ดังนี้คะ 

ระยะที่ 0 : เป็นระยะที่เพิ่งก่อตัว ยังอยู่ภายในเนื้อเยื่อ ยังไม่แบ่งตัวลุกลามสู่ภายนอกพื้นที่

ระยะที่ 1 : ระยะที่เซลล์มะเร็งเริ่มลุกลามออกมานอกเนื้อเยื่อตรงจุดที่ก่อตัว ขนาดไม่เกิน 2 เซ็นติเมตร แต่ยังไม่แพร่กระจายไปสู่ต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ 

ระยะที่ 2 : ระยะนี้ยังไม่กระจายสู่ต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ ก้อนเนื้อร้ายมีขนาดระหว่าง 2–5 เซนติเมตร (ไม่เกิน 5 เซนติเมตร) 

ระยะที่ 3 : ก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่มากกว่า 5 เซนติเมตรขึ้นไป แล้วอาจเริ่มแพร่กระจายเข้าสู่ต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้จนทั่ว

ระยะที่ 4 : เป็นระยะที่มะเร็งมีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ เช่น ปอด กระดูก ตับ สมอง เป็นต้น

มะเร็งเต้านมในระยะแรกเริ่มไม่มีอาการ การตรวจร่างกายอาจยังตรวจไม่พบ

เนื่องจากรอยโรคเล็กมากจึงเปรียบเสมือน “มฤตยูเงียบ” การตรวจคัดกรองอย่างต่อเนื่อง ด้วยการคลำเต้านมอย่างถูกวิธี ไปจนถึงการเข้ารับการตรวจด้วยเครื่องดิจิตอลแมมโมแกรม (Mammogram) และอัลตราซาวด์ (Ultrasound) จึงมีความสำคัญ

มะเร็งเต้านม หากตรวจพบในระยะแรกๆ เซลล์มะเร็งพึ่งจะก่อตัวขึ้น ยังไม่ทันลุกลามออกไปจากจุดที่ก่อตัว ยังสามารถรักษาได้ง่ายและโอกาสหายขาดสูงมาก

ทางเลือกในการรักษา"มะเร็งเต้านม"
เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านม ก่อนอื่นเราก็ต้องทำความเข้าใจในวิธีการรักษาหรือทางเลือกในการรักษาก่อน

การรักษาจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ การผ่าตัด การรักษาด้วยยา และการฉายรังสี โดยวิธีที่เลือกใช้ขึ้นอยู่กับระยะของมะเร็งเต้านมและสุขภาพของผู้ป่วย

 การผ่าตัด : มีหลายแบบ การเลือกแนวทางไหนก่อนหรือหลัง แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาให้เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละท่าน 

การผ่าตัดเฉพาะที่ (Lumpectomy) : จะตัดเฉพาะก้อนมะเร็งและเนื้อเยื่อรอบข้าง
การผ่าตัดเต้านมออกทั้งหมด (Mastectomy) : ตัดเต้านมทั้งเต้า อาจรวมถึงการตัดต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้
การผ่าตัดเพื่อป้องกัน (Prophylactic Surgery) : ใช้ในกรณีผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูง เช่น มีการกลายพันธุ์ในยีน BRCA1 หรือ BRCA2


 การรักษาโดยใช้ยา 
เคมีบำบัด (Chemotherapy) : ใช้ยาทำลายเซลล์มะเร็งเต้านม เหมาะสำหรับระยะที่มะเร็งเต้านมลุกลามหรือมีการแพร่กระจาย
การรักษาด้วยฮอร์โมน (Hormonal Therapy) : ใช้ในกรณีที่มะเร็งเต้านมตอบสนองต่อฮอร์โมน เช่น Estrogen หรือ Progesterone
ยาต้านมะเร็งแบบมุ่งเป้า (Targeted Therapy): เช่น Trastuzumab (Herceptin) เหมาะสำหรับมะเร็งชนิด HER2-positive
การรักษาด้วยภูมิคุ้มกัน (Immunotherapy) : กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้โจมตีเซลล์มะเร็ง 


 การฉายรังสี (Radiation Therapy) ใช้รังสีพลังงานสูง เพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง เหมาะสำหรับกรณีที่มะเร็งเต้านมยังคงอยู่ในเต้านมหลังการผ่าตัด
 

ก่อนเข้ารับการรักษา...มาทำความเข้าใจผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้คะ

การรักษามะเร็ง...ตามแนวทางแพทย์แผนปัจจุบัน สิ่งที่ผู้ป่วยเข้ารับการรักษามะเร็งเต้านมจะได้เจอ คือ การผ่าตัด การรักษาโดยใช้ยา(เคมีบำบัด/คีโม) การฉายรังสี(ฉายแสง) ซึ่งการรักษา ผู้ป่วยมะเร็งจะได้รับผลข้างเคียงไม่มากก็น้อย ซึ่งผู้ป่วยบางคนได้รับผลข้างเคียงมากจนไม่สามารถรับการรักษามะเร็งเต้านมต่อเนื่องได้ เซซามิน เป็นทางเลือก ช่วยผู้ป่วย เอมมูร่า เซซามิน รักษามะเร็งเต้านม วิธีรักษามะเร็ง 

ดังนั้น...การเตรียมความพร้อมของร่างกายให้แข็งแรง เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ก่อนเข้ากระบวนการรักษามะเร็งเต้มนมกับแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อรับการให้คีโมหรือรับการฉายแสง จึงมีความสำคัญมาก เพื่อให้เกิดผลกระทบข้างเคียงน้อยที่สุด และรับการรักษามะเร็งเต้มนมได้อย่างต่อเนื่อง เอมมูร่า เซซามิน รักษามะเร็ง มะเร็ง วิธีรักษามะเร็ง

การรักษามะเร็ง ด้วยการผ่าตัด : วิธีการผ่าตัดผลกระทบข้างเคียงอาจจะไม่มาก แต่ในผู้ป่วยบางราย การฟื้นตัวใช้ระยะเวลานาน และการผ่าตัดใช้ได้กับการรักษามะเร็งบางชนิด...มะเร็งเต้านมเป็นอีกหนึ่งชนิดที่แพทย์ส่วนใหญ่เลือกใช้วิธีการรักษาแบบผ่าตัด ขึ้นอยู่กับระยะและขนาดของก้อนที่ตรวจพบ  เซซามิน มะเร็งเต้านม วิธีการรักษามะเร็ง  

การรักษามะเร็ง ด้วยการให้เคมีบำบัด(คีโม) : เคมีจะเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็ง รวมถึงเซลล์ดีด้วย เพราะเคมีไม่สามารถแยกได้ว่าจะทำลายเฉพาะเซลล์มะเร็ง และผลกระทบข้างเคียงเกิดขึ้นโดยส่วนใหญ่ที่สังเกตุได้ เช่น มีอาการคลื่นใส้ อาเจียน ทานอาหารได้น้อยลง ร่างกายอ่อนเพลีย มีแผลพุพองในช่องปาก ในบางรายเกล็ดเลือด ผมร่วง บางรายท้องเสีย และบางรายมีอาการนอนไม่หลับ ฯลฯ
การรักษามะเร็ง ด้วยการฉายรังสี(ฉายแสง) : คือการใช้รังสีพลังงานสูงฉายไปเฉพาะจุดที่เป็นก้อนเซลล์มะเร็ง เพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง ผลกระทบข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ป่วยโดยส่วนใหญ่ที่สังเกตุได้ เช่น ผิวไหม้เกรียม ผิวคล้ำ แดง ผิวแห้งคันเป็นขุย คลื่นใส้ อาเจียน เบื่ออาหารทานได้น้อยลง ร่างกายอ่อนเพลีย ฯลฯ
 
อย่าเพิ่งตกใจ!!! หากตรวจพบว่าเป็น "มะเร็งเต้านม"

ข่าวดี!!! นักวิจัยไทย โดย ศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ ภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาตร์ จากเชียงใหม่ ค้นพบกลไกการทำงานของเซซามิน Sesamin ที่มีผลกับเซลล์มะเร็ง


จากงานวิจัย...พบกลไกการออกฤทธิ์ของสาร "เซซามิน Sesamin" ต่อเซลล์มะเร็ง
 เซซามิน sesamin มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังเกือบทุกชนิด รวมถึงมะเร็งด้วยคะ
 เซซามิน sesamin จัดการเซลล์มะเร็งได้ โดยไปยับยั้งการสร้างหลอดเลือดใหม่ของเซลล์มะเร็ง ซึ่งเป็นท่อน้ำเลี้ยง เส้นทางการกินอาหารของมะเร็ง เมื่อเซลล์มะเร็งไม่ได้กินอาหารก็จะฝ่อและตายได้
 เซซามิน sesamin ช่วยกระตุ้นสมดุลย์ระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง เมื่อภูมิคุ้มกันแข็งแรงก็ไปจัดการเซลล์มะเร็งได้อีกทางหนึ่งด้วยคะ 

  
เซซามิน...เหมาะกับผู้ป่วยมะเร็ง อย่างไร??

คุณประโยชน์ของเซซามิน จะช่วยดูแลดังนี้คะ
  เซซามิน sesamin ดูแลร่างกายและช่วยกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวแข็งแรงและพร้อมรับการรักษามะเร็งตามแพทย์แผนปัจจุบันได้ 
  เซซามิน sesamin ดูแลให้ผลกระทบข้างเคียงจากการให้เคมี(คีโม)และการฉายแสงน้อยลง จากหนักกลายเป็นเบา เซซามิน เอมมูร่า รักษามะเร็ง
  เซซามิน sesamin ช่วยเสริมการรักษามะเร็งของแพทย์แผนปัจจุบัน ทำให้การรักษามะเร็งมีประสิทธิภาพมากขึ้น เอมมูร่า เซซามิน
  เซซามิน sesamin ทำลายเกราะป้องกันเซลล์มะเร็ง เมื่อมะเร็งไม่มีเกราะป้องกัน ผู้ป่ายรับคีโมเข้าไปก็ไปจัดการเซลล์มะเร็งได้ตรงจุด และเม็ดเลือดขาวหรือระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงก็เข้าไปจัดการเซลล์มะเร็งได้ 
  เซซามิน sesamin ทานเพื่อดูแลสุขภาพ สำหรับผู้ที่คนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็ง ให้เอมมูร่าดูป้องกันมะเร็ง 
  เซซามิน sesamin ทานเพื่อดูแลสุขภาพ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ให้มะเร็งกลับมาได้อีก โดยเซซามินจะไปตัดวงจรการกินอาหารของมะเร็ง ทำให้เซลล์มะเร็ง ฝ่อและตายเหมือนเซลล์ทั่วๆไป
 
คณะแพทยศาตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดย ศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ ค้นพบกลไกการทำงานของเซซามิน ที่มีผลกับเซลล์มะเร็ง
  
โดยพบว่า...เมื่อรับประทานเซซามินเข้าไปในร่างกายจะช่วยป้องกันการเกิดหลอดเลือดใหม่ที่จะถูกกระตุ้นด้วยสารที่หลั่งมาจากเซลล์มะเร็ง 

เมื่อเซลล์มะเร็งแบ่งตัวและขยายใหญ่ขึ้นจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างหลอดเลือดใหม่ เพื่อดูดอาหารไปเลี้ยงก้อนมะเร็ง พร้อมทั้งแบ่งเซลล์ผ่านหลอดเลือดและเนื้อเยื่อไปยังอวัยวะอื่นๆ จนมะเร็งกระจายไปทั่วร่างกายเซซามินดูแลช่วงการรักษามะเร็ง 
 
เซซามิน จากงาดำจะไปตัดวงจรไม่ให้เซลล์มะเร็ง สร้างหลอดเลือดใหม่ เมื่อเซลล์มะเร็งไม่มีอาหารเซลล์มะเร็งก็ฝ่อและตาย และเซซามินยังช่วยกระตุ้นเม็ดเลือดขาวให้แข็งแรง ช่วยจัดการเซลล์มะเร็งอีกทีหนึ่ง ซึ่งเป็นการจัดการถึงต้นตอแบบถอนรากถอนโคนเลยทีเดียว 

>> มาทำความรู้จัก"เซซามิน"กันนะคะ <<

ปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับมะเร็งเต้านม

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงไทยเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม

  ผู้หญิงที่มีอายุ >50 ปี จะมีความเสี่ยงมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้น
  ผู้หญิงที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมขึ้นที่ข้างหนึ่ง มีความเสี่ยง 3-4 เท่า ที่จะเกิดก้อนมะเร็งขึ้นที่เต้านมอีกข้างได้
  ผู้หญิงที่มีประวัติเป็นมะเร็งรังไข่ มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมได้ เพราะมะเร็งรังไข่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสฮอร์โมน 
  หากคนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งเต้านม จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้นได้
  การสัมผัสกับฮอร์โมนเอสโตรเจน เพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นฮอร์โมนควบคุมการเปลี่ยนแปลงของลักษณะทางเพศ ซึ่งพบว่าการสัมผัสกับเอสโตรเจนเป็นเวลานานจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านม
  การกลายพันธุ์ของยีน BRCA1 หรือ BRCA2 (BRCA ย่อมาจาก BReast CAncer gene) มีความสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านม และการมีประวัติมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ ในครอบครัวตั้งแต่อายุน้อย
  การใช้ชีวิตประจำวันก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมได้ เช่น ความอ้วน ขาดการออกกำลังกาย ดื่มแอลกอฮอล์ การได้รับรังสีในปริมาณสูง

 6 สัญญาณเตือนมะเร็งเต้านม ที่คุณผู้หญิงควรรู้
1.คลำพบก้อนหนาๆบริเวณเต้านม หรือใต้รักแร้
ทำได้ด้วยตัวเองที่บ้านเป็นประจำ โดยก้อนเนื้อที่พบอาจจะกดเจ็บหรือไม่เจ็บก็ได้ และควรตรวจเต้านมด้วยตนเองทุกเดือนหลังรอบเดือนหมด ประมาณ 1 สัปดาห์

2.รูปร่างหรือขนาดของเต้านมเปลี่ยนไป
ถึงแม้ว่า...ปกติเต้านมทั้ง 2 ข้าง อาจมีขนาดและรูปร่างที่ต่างกันบ้าง แต่ต้องหากมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของเต้านมข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างมีลักษณะผิดไปจากเดิม จะช่วยให้รู้เท่าทัน หากเกิดโรคร้ายตั้งแต่ระยะเริ่มต้น

3.หัวนมบุ๋ม หรือบวมเหมือนเปลือกส้ม  
สี หรือผิวหนังบริเวณลานหัวนมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ควรรีบพบแพทย์ ซึ่งอาจเป็นอาการของเซลล์มะเร็งที่ลุกลามมาถึงชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง

4.มีเลือด น้ำเหลือง ไหลออกมาจากหัวนม
หากพบว่ามีเลือดหรือน้ำเหลืองไหลออกจากหัวนมเพียงรูเดียว 

5.เต้านมมีแผล มีผื่น แดง ร้อน มีอาการเจ็บผิดปกติที่เต้านม 
เต้านมเจ็บโดยที่ไม่ใช่ช่วงมีประจำเดือน หรือมีผิวหนังรอบๆ เต้านมบวมแดงอักเสบ โดยเฉพาะเมื่อคลำพบก้อนเนื้อร่วมด้วย 

6.ผื่นคันบริเวณเต้านมรักษาแล้วไม่หายขาด
เต้านมมีผื่นคัน อาจเกิดขึ้นที่หัวนม หรือบริเวณเต้าส่วนใหญ่ มีอาการ ผื่นแดงแสบๆ คันๆ
 
ผู้หญิงทุกคนมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม โดยมีปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงมากมาย ทั้งอายุ พันธุกรรม และพฤติกรรมการใช้ชีวิต การป้องกันที่ดีคือหมั่นสำรวจความผิดปกติของร่างกายและเต้านมสม่ำเสมอ หากพบสัญญาณเตือนมะเร็งเต้านม ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้

สอบถามข้อมูล ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
เกื้อ 063-649-9363
>> คลิ๊กเลยคะ <<
  

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้